วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อธิบายหน้าตากราฟ Marketiva

เมื่อเราได้ติดตั้งหน้าต่างโปรแกรมในการช่วยเทรดเงินของ Marketiva เรียบร้อยแล้ว เราสามารถเข้าสู่โปรแกรมโดยทำตามดังนี้

1. เลือกเข้า Marketiva ที่หน้า desktop หรือที่ เมนู start ==> all program ==> Marketiva จะมีหน้าต่างเล็กๆดังรูป



  • ช่องแรก กรอกชื่อที่ใช้ในการเล่น
  • ช่องสอง กรอกรหัสผ่านที่เราตั้งเอาไว้
  • หากเราต้องการเก็บข้อมูลกรุณาติ๊กในกรอบ [] Remember my password หากไม่ต้องการเก็บก็ไม่ต้องทำการใดๆๆ
  • จากนั้นก็เข้าโปรแกรมสั่งงานเทรดได้เลยที่ Sing In

2. จะปราฏหน้าต้างใหญ่ๆ ขึ้นมา

3. หน้าต่างจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน

ทุกเมนูเล็กที่กล่าว สามารถโยกย้ายได้ โดยที่เรากดเมาส์ค้างไว้แล้วเราลากไปไว้ยังตำเหน่งที่เราต้องการ

  • กรอบที่ 1. จะมีเมนูให้เลือกอยู่ 4 ตัวเป็นเกี่ยวกับว่าเราสนใจเทรดอะไรบ้าง ดังนี้
  1. Forex เกี่ยวกับสกุลเงิน เช่น USD/EUR GBP/JPY
  2. Funds เกี่ยวกับกองทุนต่าง
  3. Indexes เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์
  4. Commodites เกี่ยวกับโลหะมีค่า

ในข้อที่ Fund/Indexes/Commodites เราจะต้องมีทุนทรัพย์มากๆๆ จากจะทำการเข้าเทรดได้นะ ครับ

  • กรอบที่ 2. จะมีเมนูต่างๆเกี่ยวกับกราฟ รายงานข่าว ห้องสนทนา
  1. Charting ห้องกราฟ บ่งบอกถึงการวิ่ง ณ ปัจจุบัน สามารถเซตค่าได้(มีกล่าวในบทการตั้งค่ากราฟ)
  2. Discussions ห้องสนทนา(สร้างเพิ่มได้) ซึ่งมีหลายห้อง โดยห้องต่างๆสามารถสอบถามปัญหาต่างกับผู้ดูแล หรือจะคุยกับกลุ่มคนไทยพิมพ์ภาษาไทยได้และต่างประเทศมีรวมกัน 22 ประเทศ โดยไปเพิ่มได้ที่ Groups เลือกเอาเอง ตามแต่สะดวก
  3. Latest News ข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเงินหรือข่าวสำคัญต่าง
  • กรอบที่ 3. จะเป็นการบอกยอดเงินและสัญญาณเตือน
  1. Portfolio บอกถึงสถานะของเงินในบัญชี Virtual Forex/Funds(เงินจำลองใช้กับการฝึก) Live Forex/Funds/Commodities/Indexes(เงินจริงที่เลือกใช้เทรดกับอะไรเช่นสกุลเงิน เงินจริง โลหะมีค่า กองทุน)
  2. Alerts เป็นสัญญาณเตือนดดยการประกาศ หรือเสียงระฆัง

  • กรอบที่ 4. จะบอกรายละเอียดของการเทรดว่าเราลงกี่ตัว เท่าไร แบ่งเมนูย่อยดังนี้
  1. Orders เป็นที่เก็บรายการ Pending Ordes(สั่งซื้อล่วงหน้า) , รายการสั่งปิดล่วงหน้า Stop lot(จุดปิดที่เราย่อมเสีย) , Target(จุดปิดที่เราหวังจากการได้กำไร)
  2. Trades เป็นที่เก็บรายการสั่งซื้อสั่งขายทั้งหมด
  3. Positions เป็นที่เก็บรายการที่เราเทรดเล่นในปัจจุบัน
  4. Account Center เป็นที่เก็บข้อมูลการทำงานเราไม่ว่าจะ เป็นรายละเอียดของเรา และสามารถโอนเงินเข้าและโอนเอาออกจากบัญชีผ่านตรงนี้ก็ได้

4. รูปนี้แสดง Account Center

5. เมื่อเราคลิกซ้ายโดยเอาเมาส์ไปว่างที่กราฟ จะมีเครื่องมือในกรอบสี่เหลี่ยมเล็ก ส่วนกรอบอีกกรอบเป็นรายชื่อเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์สำหรับการเทรด

  • โดยกรอบเล็กมีรายการเรียงมาตามนี้
  • New Charting Tab สร้าง Chart ใหม่ขึ้นมา
  • Close Tab เอาไว้ปิด Chart ที่เรามีอยู่แล้ว
  • My Chart อันนี้เป็นที่เก็บ Chart ที่เราทำสำเร็จแล้ว เอาไว้ใช้
  • Save Chart เอาไว้เก็บไฟล์ Chart ที่เราลงเครื่องมือไว้
  • Instrument ตรงนี้จะมีรายชื่อสกุลเงิน(forex) หรือ อันอื่น แล้ว แต่เราเลือกดู
  • Timescale เอาไว้เลือกเวลาในการเทรดแบ่งเป็น 5/15/30 นาที, 1หรือ4 ชั่วโมง,วัน,อาทิตย์,เดือน
  • Style จะแสดงรูปแบบกราฟ เป็นแบบ กราฟเส้น กราฟแท่งเทียน
  • Zoom ย่อขยายกราฟ มี 50%, 75%, 100%, 125%
  • Indicators เครื่องมือเอาไว้ช่วยวิเคราะห์
  • Copy เอาว้คัดลอก
  • Show Positions ถ้าเลือกจะช่วยแสดงตำแหน่ง
  • Fixed Scale ถ้าเลือกซ่อมแซมการแสดงตำแหน่ง
  • Buy/Sell กำหนดออเดอร์ในการซื้อขาย โดยที่BUYหรือLONG(คำสั่งซื้อขาขึ้น) และSELLหรือSHORT(คำสั่งซื้อขาลง)
  • กรอบใหญ่เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ที่เราเรียกว่า Indicators โดยที่แต่ละตัวคืออะไรดังนี้

ดูจากฝั่งซ้ายมือไปขวามือเรียงจากบนลงล่างตามลำดับ บอกเท่าที่ทราบนะครับ

  1. Remove Active Indicators เครื่องมือเอาไว้ลบอินดี้ ที่เราสร้างในกราฟออก
  2. Trend Line เครื่องมือวัดเกี่ยวกับเส้น
  3. Text Label เอาข้อความไปว่างไว้หน้ากราฟ
  4. Price Pointer
  5. Symbol
  6. Horizomtal Line
  7. Fibonacci Retraccment เครื่องมือวัดระดับราคาที่ควรจะปรับหลังจากการปรับฐาน ตามตัวเลข Fibonacci แบง่ได้เป็น 38.2% 50% 61.8% 100% 161.8% 261.8% 361.8% 461.8%
  8. Fibonacci Arcs เป็นเครื่องมือวัดระดับราคาที่ควรจะปรับฐาน ในรูปแบบครึ่งวงกลม
  9. Fibonacci Fan เป็นเครื่องมือวัดระดับราคาที่ควรจะปรับฐาน ในรูปแบบพัด
  10. Moving Average เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
  11. Bollinger Bands เป็นกรอบการซื้อขายที่มีระยะห่างจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของราคา
  12. Parabolic SAR เป็นระบบหาค่าเฉลี่ย โดยจะสามารถให้จังหวะในการเข้าออก โดยอาศัยการเปรียบเทียบกันระหว่างราคาค่าเงินกับราคาเฉลี่ยราคาเงิน เป็นตัวบ่งบอกสัณญาญเข้าออก
  13. Avg Directional Movement Inder (ADX) ดัชนีทิศทางการเคลื่อนที่ของราคาโดยเฉลี่ย
  14. Commodity Channel Index (CCI)
  15. Average True Range (ATR)
  16. Linear Regression
  17. Time Series Forecast (TSF)
  18. Moving Avg Conv./Divergence (MACD) ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ร่วมทาง / แยกทาง
  19. Hilbert Transform Trend Line
  20. Hilbert Transform Dominat Cycle Period
  21. Hilbert Transform Dominant Cycle Phase
  22. Momentum เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในระยะสั้น ซึ่งสามารถใช้วีดการแกว่งตัวของราคาได้และเนื่องจากเป็นเครื่องมือระยะสั้นจึงเป็นเครื่องมือที่มักจะสวนทางกับแนวโน้มของราคา โดยจะนำมาใช้ดูสภาพในช่วงสั้นของตลาดว่า ขณะนั้นอยู่ในช่วงภาวะซื้อมากจนเกินไป (OVERBOUGHT) หรือ ขายมากจนเกินไป (OVERSOLD)
  23. Williams' %R เป็นเครื่องมือแสดงภาวะการซื้อหรือขายมากไป ซึ่งพิจารณาจากราคาปัจจุบันว่าอยู่ ณ ระดับราคาใดในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยจะบอกถึง สัณญาณซื้อจะเกิด เมื่อ %R ตัดเส้น ระดับ -90% ขึ้นไป และสัญญาณขายจะเกิดเมื่อ %R
    ตัดเส้นระดับ -10% ลงมา
  24. Relative Strength Index (RSI) เป็นเครื่องมือที่นำมาใช้วัดการแกว่งตัวของราคาหุ้น สำหรับการลงทุนในช่วงหนึ่ง เพื่อดูภาวะการซื้อมากเกินไป (OVERBOUGHT) หรือขายมากเกินไป (OVERSOLD)
  25. Rate of Change (ROC)
  26. Stochastic Show
    เป็นเครื่องมือวัดการแกว่งตัวของราคาที่ถูกทำให้ราบเรียบขึ้นกว่า Fast Stochastic สามารถบอกได้ถึง
    สัญญาณซื้อ-ขาย ซึ่ง จะใช้หลักเดียวกันกับ Fast Stochastic
  27. Stochastic Fast เป็นเครื่องมือวัดการแกว่งตัวของระดับราคาในปัจจุบันภายในช่วงกว้างของระดับราคา ณ ช่วงเวลาหนึ่งๆ
  28. Chaikin A/D Lind (AD) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอีกชนิดหนึ่ง ใช้มองแนวโน้มระยะกลางและระยะยาว ของทิศทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มหุ้น ซึ่งหาได้จากผลต่างสะสมของจำนวนหุ้นบวก (หุ้นที่ราคาปิดสูงขึ้นจากวันก่อนหน้า) กับจำนวนหุ้นลบ (หุ้นที่ราคาปิดต่ำลงจากวันก่อนหน้า)
  29. Money Flow Index อีกตัวครับที่เอาไว้ใช้ดู Momentum ของ Volume ว่า over bought/sold
  30. Average Price
  31. Balance of Pomery
  32. Aroon Oscillator
  33. Chande Momentum Oscillator
  34. Ultimate Oscillator
  35. Absolute Price Oscillator (APO)
  36. Percentage Price Oscillator (PPO)
  37. Chaikin A/D Oscillator

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น